ริโอ เฟอร์ดินานด์ กองหลังตัวเก่งของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด น่าจะพลาดลงสนามอีกหนึ่งเกม เนื่องจากอาการบาดเจ็บที่หลัง แต่นายทวารเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ น่าจะหายจากอาการบาดเจ็บกลับมาได้ทัน
เจอร์ราร์ด ปิเก้ น่าจะได้ลงทำหน้าที่แทน เฟอร์ดินานด์ อีกนัด ขณะที่หลุยส์ ซาฮา คาดหมายว่าน่าจะได้ลงเป็นตัวจริงอีกครั้ง
กุนซือลิเวอร์พูล ราฟาเอล เบนิเตซ ไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บเพิ่มเติม และน่าจะส่งผู้เล่นชุดเดียวกันกับที่พิชิตชัย เรดดิ้ง ลงสนามในนัดนี้
อย่างไรก็ตามกองหลังประสบการณ์สูงอย่าง ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ อาจมีสิทธิ์สอดแทรกลงมาทำหน้าที่แดนกลาง แทนที่ไรอัน บาเบล
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฟาน เดอร์ ซาร์, ฮาร์กรีฟส์, ปิเก้, วิดิช, โอเชีย, โรนัลโด้, เฟล็ตเชอร์, แอนเดอร์สัน, นานี่, ซาฮา, เตเบซ, บราวน์, สโคลส์, รูนี่ย์, กิ๊กส์, พาร์ค, คาร์ริค, เอฟร่า, เฟอร์ดินานด์, คุสซ์แซ็ค, ฟอสเตอร์
ลิเวอร์พูล เรน่า, อเบลัว, ฟินแน่น, คาร์ราเกอร์, ฮูเปีย, สคอร์เทล, ออเรลิโอ, รีเซ่, บาเบล, เบนายูน, อลอนโซ่, เจอร์ราร์ด, มาสเคราโน่, ลูคัส, เคาท์, ตอร์เรส, โวโรนิน, เคร้าช์, เพนแนนท์, อิตองเฌ่
เกมนี้คู่แค้นตลอดกาลอย่าง แมนฯยูฯ กับ ลิเวอร์พูล ลงทำศึกแห่งศักดิ์ศรีที่โรงละครแห่งความฝัน โดยปีศาจแดงกำลังพยายามคว้าชัยนัดที่ 5 ติดต่อกันให้ได้เฉพาะในเกมลีก ส่วนลิเวอร์พูล ก็พยายามเก็บชัยชนะเป็นนัดที่ 6 ติดต่อกันในลีก
ปีศาจแดงมีแต้มเหนือลิเวอร์พูล อยู่ 11 คะแนน และจะเป็นการสวิงไปกลับถึง 3 แต้ม หากมีผลแพ้ชนะ โดยปีศาจแดงเพิ่งเก็บแต้มได้เมื่อวันพุธโดยอัดโบลตันไป 2 – 0 เหลือเกมในลีกอีกเพียง 8 เกม ในขณะที่ทีมกำลังนำหัวตาราง และมีโอกาสเก็บแชมป์พรีเมียร์ ลีก ครั้งที่ 10 ของสโมสร
เป็นเวลาที่หนักหน่วงสำหรับลิเวอร์พูล เนื่องจากมี เมอร์ซีย์ ไซด์ ดาร์บี้ แมทช์ กับเอฟเวอร์ตัน รออยู่หลังจากเกมนี้
ทั้งสองสโมสรเพิ่งผ่านเข้าไปเล่นในรอบสี่ทีมสุดท้ายของถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก โดยลิเวอร์พูล จะพบกับ อาร์เซนอล ซึ่งเข้ารอบมาได้เช่นกัน
ลิเวอร์พูล กำลังพยายามคว้าชัยชนะเหนือปีศาจแดงเป็นครั้งที่ 50 ในลีกจากการพบกันมาแล้ว 150 นัด
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
“เกมกับลิเวอร์พูล จะดึงเอาความร่วมแรงร่วมใจในตัวผู้เล่นทุกคนออกมา นี่เป็นเกมที่ทุกคนต้องการมีส่วนร่วม”
“คุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงความมุ่งมั่นที่อยู่ในเกมนี้ได้ ทั้งความกดดัน และบรรยากาศรอบข้าง”
“หากเราเล่นได้ตามมาตรฐาน เรามีโอกาสคว้าัชัยเหนือทุกทีมได้ เราหวังว่าจะสามารถรักษาฟอร์มการเล่นของเรา และเก็บผลการแข่งขันที่เราต้องการได้”
ราฟาเอล เบนิเตซ
“เราไม่ได้เตรียมแผนสำหรับโรนัลโด้ ไว้เป็นพิเศษ”
“ปีศาจแดงยังมี เวย์น รูนี่ย, ไรอัน กิ๊กส์, พอล สโคลส์ และ์คนอื่นๆ อีก ถ้าคุณมุ่งเป้าไปที่โรนัลโด้ เพียงคนเดียว คุณอาจพลาดการคุมผู้เล่นคนอื่นไป”
“มันไม่ใช่เกมการหยุดยั้งโรนัลโด้ เท่านั้น แมนฯยูฯ ก็ต้องเตรียมหยุดเฟอร์นันโด ตอร์เรส ให้ได้เช่นกัน โรนัลโด้ กำลังเข้าฟอร์ม และตอร์เรส ก็เหมือนกัน”
ฟอร์มการเล่น
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ความพ่ายแพ้แก่ปอร์ทสมัธ ในเอฟเอ คัพ เป็นการแพ้ครั้งแรกใน 8 เกมหลังสุด(จากการลงเล่นในทุกรายการ)
ปีศาจแดงชนะ 8 นัดจาก 10 เกมหลังสุด ซึ่ง 4 นัดหลังสุดเป็นชัยชนะเหนือ นิวคาสเซิล(เยือน), ฟูแล่ม(เยือน), ดาร์บี้(เยือน)และ โบลตัน(เหย้า)
ชนะ 22 นัด เสียไป 20 คะแนน ทำประตูไปทั้งหมด 61 ประตู เฉลี่ย 1ลูก/44 นาที และเสียไป 15 ประตู เฉลี่ย 1ลูก/180 นาที(3 ชั่วโมง) หรือทุกสองเกมโดยเฉลี่ย ดีที่สุดใน 4 ทีมหัวแถว
ทำสถิติการเสมอน้อยที่สุดเท่ากับ เรดดิ้ง คือทีมละ 4 นัด
ทำสถิติไม่เสียประตูดีที่สุดคือ 18 นัด มากกว่าฤดูกาลที่แล้ว 2 นัด มีเชลซี ไล่ตามมาที่ 17 นัด
ทำประตูขึ้นนำได้ถึง 24 เกม(ชนะ 21 แพ้เพียง 1 นัด) และถูกขึ้นนำไปก่อน 5 นัด ถือเป็นสถิติที่น้อยที่สุดในลีก
เป็นรองลิเวอร์พูล ทีมเดียว เมื่อดูจากผลงาน 6 นัดหลังสุด โดยทำได้ 16 คะแนน
ทำได้ถึง 15 ประตูภายใน 10 นาทีแรกของเกม 10 ประตูจากช่วง 5 นาทีก่อนหมดเวลา โดย 7 ประตูที่ได้มาจากช่วงทดเวลาบาดเจ็บ สถิติเหนือทีมอื่นๆ ทั้งหมด แม้ว่าจะถูกอาร์เซนอล และเรดดิ้ง ทำประตูตีเสมอได้จากช่วงทดเวลาบาดเจ็บเช่นกัน
เล่นในบ้าน 31 นัด แพ้เพียง 2 นัดเท่านั้น
แอสตัน วิลล่า จะเยือนโอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นทีมต่อไป ตามด้วยแมทช์แชมเปี้ยนส์ ลีก นอกบ้านกับ โรม่า และแมทช์ไปเยือนมิดเดิ้ลสโบรซ์
ลิเวอร์พูล
ชนะไปถึง 7 เกมหลักจากตกรอบเอฟเอ คัพ โดยแพ้ บาร์นสลี่ย์ เมื่อ 16 กุมภาพันธ์ เป็นความพ่ายแพ้เพียงนัดเดียวจาก 10 เกมหลังสุดที่ลงเล่นในทุกรายการ
ไม่แพ้ติดต่อกันเป็นนัดที่ 7 ในลีกโดยชนะถึง 6 เสมอ 1 หลังจากแพ้เวสต์ แฮม เมื่อ 30 มกราคม ซึ่งเป็นการแพ้ครั้งเดียวจาก 14 นัด
ทำสถิติแพ้เพียง 3 นัด เป็นรองแค่ อาร์เซนอล ซึ่งแพ้เพียง 1 นัดเท่านั้น
ทำสถิติเสมอ 11 นัด เท่ากับ ฟูแล่ม
เสียประตูไป 21 นัด เป็นรองปีศาจแดง (15) ถูกทำประตูขึ้นนำก่อน 7 นัด เป็นรองแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (5 นัด)
เป็นหนึ่งในสองสโมสรที่ไม่เคยได้ใบแดงในลีกฤดูกาลนี้ เทียบเท่าโบลตัน ได้รับใบเหลือง 37 ใบ เป็นรองแค่เอฟเวอร์ตัน ที่ได้เพียง 33 ใบรวมกัน (ใบแดง 3 ใบเหลือง 30)
ทำสถิติเสมอโดยไม่มีประตูถึง 5 นัด มีเพียงปอร์ทสมัธ ที่ทำสถิติเทียบเท่า
ทำสถิติชนะ 111 นัดและแพ้ 111 นัดในแมทช์เยือนในลีก และ ทำประตูไปถึง 400 ประตูในพรีเมียร์ ลีก
ชนะเพียงนัดเดียว จากแมทช์เยือน 5 นัดหลังสุด (ชนะโบลตัน 1-3 เมื่อ 2 มีนาคม) และไม่แพ้ทีมจากทางแถบตะวันตกเฉียงเหนือเลยในฤดูกาลนี้
แมทช์ต่อไปจะพบกัน เอฟเวอร์ตัน ในวันอาทิตย์หน้า หลังจากนั้นอีก 3 วันจะออกไปเยือนเอมิเรสต์ สเตเดี้ยม ของอาร์เซนอล เพื่อเล่นรอบก่อนรองชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก และแมทช์เหย้าในแอนฟิลด์ กับอารเซนอล ในอังคารถัดไป โดยมีแมทช์กับแบล็คเบิร์น คั่นกลาง
ผู้เล่นคนสำคัญ
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำประตูให้ทีมปีศาจแดงสูงสุด 33 ประตูในฤดูกาลนี้ ทำสถิติสูงสุดในทีมสำหรับผู้เล่นตำแหน่งปีก
โรนัลโด้ทำสถิติลงเล่นเป็นตัวจริงมากที่สุดในพรีเมียร์ ลีก คือ 24 ครั้ง และนำในการแข่งขันรางวัลรองเท้าทองคำอยู่
เวย์น รูนี่ย์ ต้องการอีกเพียง 1 ประตู จะครบ 50 ประตู ที่ซัลโวให้ปีศาจแดงในพรีเมียร์ ลีก
รูนี่ย์จะทำสถิติลงเล่นเป็นตัวจริงนัดที่ 150 ในลีก ถ้าหากได้ลงในนัดนี้ (รวมทั้งเอฟเวอร์ตัน และแมนฯยูฯ)
คริส อีเกิ้ลส์ จะทำสถิติเป็นผู้เล่นตัวจริงนัดที่ 50 หากได้ลง (รวมแมนฯยูฯ, วัตฟอร์ด และเชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์)
หลังจากบาดเจ็บไปนาน แกรี่ เนวิลล์ อาจจะได้ทำสถิติเป็นผู้เล่นตัวจริงนัดที่ 350 ในพรีเมียร์ ลีก
ลิเวอร์พูล
เฟอร์นันโด ตอร์เรส เป็นผู้ทำประตูสูงสุด 27 ประตู และมากที่สุดสำหรับประตูในลีก คือ 20 ประตู
ตอร์เรส เป็นผู้เล่นคนที่สองที่ทำประตูให้หงส์แดง ได้เกิน 20 ประตูในหนึ่งฤดูกาล สำหรับพรีเมียร์ ลีก โดยมี ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ทำได้ 25 ประตูในปี 1994-95 และ 28 ประตูในปี 1995-96
ผู้รักษาประตู โฮเซ่ เรน่า เป็นเพียงคนเดียวที่ได้ลงเล่นทุกนัดในพรีเมียร์ ลีก ฤดูกาลนี้
เรน่านำอยู่ในการลุ้นรางวัลมือทอง โดยมีสถิติไม่เสียประตู 14 นัด
สถิติในนัดนี้
แมนฯ ยูฯ กำลังพยายามคว้าชัยชนะเป็นนัดที่ 5 ติดต่อกันเหนือ ลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล ไม่สามาถทำประตูปีศาจแดงได้เลยในการพบกัน 7 นัดหลังสุดทั้งใน เอฟเอ คัพ และพรีเมียร์ ลีก ประตูเดียวที่ช่วยให้หงส์แดง ภายใต้การนำทีมของราฟาเอล เบนิเตซ ชนะปีศาจแดงได้ 2-1 มาจากการทำเข้าประตูตัวเองของจอห์น โอเชีย ในเกมที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อ 20 กันยายน 2004
หากทีมปีศาจแดงชนะจะเป็นการชนะรวดทั้งเหย้า และเยือนครั้งที่ 5 เหนือหงส์แดง เฉพาะในพรีเมียร์ ลีก
สถิติเหย้าและเยือน
ลีก(รวมพรีเมียร์ฯ) : แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 57 ลิเวอร์พูลชนะ 49 เสมอ 43
พรีเมียร์ ลีก : แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 17 ลิเวอร์พูลชนะ 7 เสมอ 7
เกมที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด
ลีก(รวมพรีเมียร์ฯ) : แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 35 ลิเวอร์พูล ชนะ 14 เสมอ 25
พรีเมียร์ ลีก : แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 8 ลิเวอร์พูลชนะ 3 เสมอ 4
ผลการแข่งขันในฤดูกาลที่แล้ว
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 – 0 ลิเวอร์พูล
22 ตุลาคม 2006
ผู้ตัดสิน เกรแฮม โพลล์
ผู้ทำประตูให้แมนฯ ยูไนเต็ด สโคลส์ น.39, เฟอร์ดินานด์ น.66
ผลการแข่งขันในฤดูกาลนี้
ลิเวอร์พูล 0 – 1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
16 ธันวาคม 2007
ผู้ตัดสิน มาร์ค ฮัลซี่ย์
ผู้ทำประตูให้แมนฯ ยูไนเต็ด เตเบซ น.43
บิ๊กตั๊ก